วันเสาร์ที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ทิศ 6

ทิศ ๖ ข้อได้แก่ข้อควรปฏิบัติต่อบุคคลต่างๆ

๑. ปุรัตถิมทิส คือทิศเบื้องหน้า > มารดาบิดา.
๒. ทักษิณทิส คือทิศเบื้องขวา > อาจารย์.
๓. ปัจฉิมทิศ คือทิศเบื้องหลัง > บุตรภรรยา.
๔. อุตตรทิส คือทิศเบื้องซ้าย > มิตร.
๕. เหฏฐิมทิส คือทิศเบื้องต่ำ > บ่าว.
๖. อุปริมทิส คือทิศเบื้องบน > สมณพราหมณ์.

๑. ปุรัตถิมทิส คือทิศเบื้องหน้า มารดาบิดา บุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕

( ๑ ) ท่านได้เลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ.
( ๒ ) ทำกิจของท่าน.
( ๓ ) ดำรงวงศ์สกุล.
( ๔ ) ประพฤติตนให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก.
( ๕ ) เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน.

มารดาบิดาได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์บุตรด้วยสถาน ๕

( ๑ ) ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว.
( ๒ ) ให้ตั้งอยู่ในความดี.
( ๓ ) ให้ศึกษาศิลปวิทยา.
( ๔ ) หาภรรยาที่สมควรให้.
( ๕ ) มอบทรัพย์ให้ในสมัย.

๒. ทักษิณทิส คือทิศเบื้องขวา อาจารย์ ศิษย์พึงบำรุงด้วยสถาน ๕

( ๑ ) ด้วยลุกขึ้นยืนรับ.
( ๒ ) ด้วยเข้าไปยืนคอยรับใช้. (เพื่อบำรุง คอยรับใช้  ปรึกษา ซักถาม และรับคำแนะนำ เป็นต้น )
( ๓ ) ด้วยเชื่อฟัง.
( ๔ ) ด้วยอุปัฏฐาก.
( ๕ ) ด้วยเรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ.

อาจารย์ได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์ศิษย์ด้วยสถาน ๕

( ๑ ) แนะนำดี.
( ๒ ) ให้เรียนดี.
( ๓ ) บอกศิลปให้สิ้นเชิง ไม่ปิดบังอำพราง.
( ๔ ) ยกย่องให้ปรากฏในเพื่อนฝูง.
( ๕ ) ทำความป้องกันในทิศทั้งหลาย
( คือจะไปทางทิศไหนก็ไม่อดอยาก ).

๓. ปัจฉิมทิส คือทิศเบื้องหลัง ภรรยา สามีพึงบำรุงด้วยสถาน ๕

( ๑ ) ด้วยยกย่องนับถือว่าเป็นภรรยา.
( ๒ ) ด้วยไม่ดูหมิ่น.
( ๓ ) ด้วยไม่ประพฤติล่วงใจ.
( ๔ ) ด้วยมอบความเป็นใหญ่ให้.
( ๕ ) ด้วยให้เครื่องแต่งตัว.

ภรรยาได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์สามีด้วยสถาน ๕

( ๑ ) จัดการงานดี.
( ๒ ) สงเคราะห์คนข้างเคียงของผัวดี.
( ๓ ) ไม่ประพฤติล่วงใจผัว.
( ๔ ) รักษาทรัพย์ที่ผัวหามาได้ไว้.
( ๕ ) ขยันไม่เกียจคร้านในกิจการทั้งปวง.

๔. อุตดรทิส คือทิศเบื้องซ้าย มิตร กุลบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕

( ๑ ) ด้วยให้ปัน.
( ๒ ) ด้วยเจรจาถ้อยคำไพเราะ.
( ๓ ) ด้วยประพฤติประโยชน์.
( ๔ ) ด้วยความเป็นผู้มีตนเสมอ.
( ๕ ) ด้วยไม่แกล้งกล่าวให้คลาดจากความเป็นจริง.

มิตรได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน ๕

( ๑ ) รักษามิตรผู้ประมาทแล้ว.
( ๒ ) รักษาทรัพย์ของมิตรผู้ประมาทแล้ว.
( ๓ ) เมื่อมีภัย เอาเป็นที่พึ่งพำนักได้.
( ๔ ) ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ.
( ๕ ) นับถือตลอดถึงวงศ์ของมิตร.

๕. เหฏฐิมทิส คือทิศเบื้องต่ำ บ่าว นายพึงบำรุงด้วยสถาน ๕

( ๑ ) ด้วยจัดการงานให้ทำตามสมควรแก่กำลัง.
( ๒ ) ด้วยให้อาหารและรางวัล.
( ๓ ) ด้วยรักษาพยาบาลในเวลาเจ็บไข้.
( ๔ ) ด้วยแจกของมีรสแปลกประหลาดให้กิน.
( ๕ ) ด้วยปล่อยในสมัย.

บ่าวได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์นายด้วยสถาน ๕

( ๑ ) ลุกขึ้นทำการงานก่อนนาย.
( ๒ ) เลิกการงานทีหลังนาย.
( ๓ ) ถือเอาแต่ของที่นายให้.
( ๔ ) ทำการงานให้ดีขึ้น.
( ๕ ) นำคุณของนายไปสรรเสริญในที่นั้น ๆ.

๖. อุปริมทิส คือทิศเบื้องบน สมณะพราหมณ์ กุลบุตรพึงบำรุงด้วยสถาน ๕

( ๑ ) ด้วยกายกรรม คือทำอะไร ๆ ประกอบด้วยเมตตา.
( ๒ ) ด้วยวจีกรรม คือพูดอะไร ๆ ประกอบด้วยเมตตา.
( ๓ ) ด้วยมโนกรรม คือคิดอะไร ๆ ประกอบด้วยเมตตา.
( ๔ ) ด้วยความเป็นผู้ไม่ปิดประตู คือมิได้ห้ามเข้าบ้านเรือน.
( ๕ ) ด้วยให้อามิสทาน.

สมณะพราหมณ์ได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน ๖

( ๑ ) ห้ามไม่ให้กระทำความชั่ว.
( ๒ ) ให้ตั้งอยู่ในความดี.
( ๓ ) อนุเคราะห์ด้วยน้ำใจอันงาม.
( ๔ ) ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง.
( ๕ ) ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้แจ่ม.
( ๖ ) บอกทางสวรรค์ให้.

ที่อ้างอิงนะคะ..ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ข้อ ๒๐๓ ถึง ๒๐๖

คัดลอกมาจาก http://www.thaimisc.com/freewebboard...aew&topic=6623

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น